สำหรับสาวๆยุคใหม่ การล้างหน้าด้วยโฟมหรือผลิตภัณฑ์ล้างหน้าอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ซึ่งการล้างหน้าที่ไม่สะอาดหลังจากการแต่งหน้าหรือเจอมลภาวะในปัจจุบันนี้นั้นเป็นสาเหตุหลักๆทำให้สาวๆอย่างเราเกิดสิวได้ง่ายมาก สาวๆควรหันมาดูแลปรนนิบัติผิวหน้าให้มากขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อการดูแลผิวของเราให้สวย ใส ปราศจากสิวและสิวอุดตัน โดยการล้างหน้าให้สะอาดและดูแลผิวหน้าด้วยการใช้โทนเนอร์เป็นประจำ ก็จะช่วยให้ผิวหน้าของสาวๆสะอาดยิ่งขึ้น ผู้หญิงยุคใหม่นิยมใช้โทนเนอร์กันมากขึ้น ซึ่งในท้องตลาดก็มีโทนเนอร์หลากหลายยี่ห้อให้เลือกใช้กันตามความชอบของแต่ละคน จึงมีวิธีง่ายๆในการเลือกใช้โทนเนอร์มากฝากกันค่ะ
การล้างเครื่องสำอางที่ไม่สะอาดมีโอกาสที่จะทำให้ผิวหน้าของเรานั้นเกิดสิวได้ง่าย ดังนั้นเราจึงควรที่จะเลือกใช้โทนเนอร์ที่เหมาะสมกับผิวของเรา
วิธีการเลือกโทนเนอร์
การเลือกโทนเนอร์ควรเลือกชนิดที่มีส่วนผสมบำรุงผิวเป็นส่วนประกอบ เช่น อนุพันธ์วิตามินซี (Ascorbyl Tetrailsopalmitate) เพื่อเป็นการบำรุงผิวไปในขั้นตอนเดียวกัน สำหรับสาวๆที่ไม่ชอบบำรุงผิวหลายขั้นตอน การใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมบำรุงผิวเป็นส่วนประกอบ ก็ถือเป็นอีก 1 ทางเลือกที่ดีค่ะ แต่การทาโทนเนอร์มากๆนั้น ไม่ได้ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวได้ สาวๆที่มีผิวแห้งอยู่แล้วก็อาจจะมีผิวที่แห้งขึ้นไปอีก แนะนำให้ผู้ที่มีผิวแห้งบำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นเพื่อผิวที่ชุ่มชื้น สวยเปล่งปลั่งค่ะ ส่วนสาวๆที่มีผิวมัน ผิวผสม(ที่จะมีการมันบนใบหน้าในช่วง T-Zone) หรือผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายนั้น การใช้โทนเนอร์ก็จะช่วยลดความมันบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี ทำให้ผิวหน้าไม่มันซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดสิว และช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลงอีกด้วยค่ะ
มาทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอย่าง โทนเนอร์ กัน
โทนเนอร์ (Toner) คือ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาดสิ่งตกค้างที่หลงเหลืออยู่ผิวหน้าจากการล้างหน้าที่เราอาจจะคิดว่าล้างหน้าสะอาดแล้วก็ตาม และช่วยปรับสภาพผิวเพื่อเตรียมผิวให้พร้อมก่อนทำการบำรุงขั้นต่อไป โดยการบำรุงผิวหลังจากใช้โทนเนอร์จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่างๆซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น แต่การใช้โทนเนอร์ที่ดีนั้นไม่ควรใช้สำลีเช็ดเพราะไม่ว่าจะสำลีที่มีคุณภาพดีแค่ไหน ก็สามารถทำให้ผิวหน้าของเราเกิดการระคายเคืองได้ค่ะ สาวๆอาจจะยังสงสัยว่าอ้าว แล้วโทนเนอร์ใช้ตอนไหนล่ะ? ไขข้อข้องใจให้ว่า ใช้ในขั้นตอนแรกหลังจากล้างหน้าให้สะอาด โดยการใช้โทนเนอร์ที่ดีและมีประสิทธิภาพสูงสุดนั้น ให้รีบใช้หลังจากหลังหน้าเสร็จทันทีและซับหน้าให้แห้งพอประมาณด้วยผ้าเช็ดหน้าที่สะอาด โดยสามารถเทลงบนมือเปล่าที่มั่นใจว่าสะอาดของเราแล้วค่อยๆทาให้ทั่วผิวหน้าอย่างเบามือ ก็เพียงพอแล้วค่ะ
มีหลายคนที่คิดว่าการทาโทนเนอร์มากๆนั้นจะช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นขึ้นได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากผลิตภัณฑ์โทนเนอร์ที่เลือกใช้ไม่มีส่วนประกอบของส่วนผสมบำรุงผิว ไม่ว่าจะทาโทนเนอร์มากเท่าใดก็ไม่มีประสิทธิภาพในการรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว จึงไม่มีประโยชน์ที่จะใช้ในจำนวนมากๆ และยังเป็นการสิ้นเปลืองอีกด้วย
โทนเนอร์ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่ดูแลผิวโดยตรง แต่สามารถช่วยบำรุงผิวได้
แม้โทนเนอร์อาจจะไม่ใช่สิ่งจำเป็นในที่สุดในการบำรุงผิวเสมอไป แต่โทนเนอร์บางชนิดที่มีส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพในการช่วยบำรุงผิวเป็นส่วนประกอบ ซึ่งโทนเนอร์บางชนิดมีประสิทธิภาพมากกว่าเซรั่ม หรือ ครีมบำรุง เนื่องจาก สารบางชนิด เช่น อนุพันธ์วิตามินซี (Ascorbyl tetraisopalmitate) , ไนอะซิน (Niacin) และวิตามินบี 3 เป็นต้น ที่เป็นส่วนผสมที่นิยมในครีมบำรุงหลายๆชนิด ที่มีคุณสมบัติในการละลายน้ำ เนื่องจากเมื่อผสมโทนเนอร์ซึ่งมีส่วนประกอบไม่ซับซ้อนและมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักทำให้สารดังกล่าวมีความเสถียรมากกว่านำไปผสมในผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นๆ ทำให้สารสลายตัวได้ยากและมีคุณสมบัติในการซึมซาบสู่ผิวได้ดีเนื่องจากมีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่มาก เพื่อผิวที่สะอาดหมดจดและมีความชุ่มชื้น และโทนเนอร์ยังให้ที่เบาสบายผิว แห้งไว โดยไม่ต้องมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ การเลือกโทนเนอร์ที่ดีนั้นควรเลือกที่ไม่มีแอลกอฮอล์และไม่มีน้ำหอมเพื่อป้องกันการระคายเคือง หากถามว่า โทนเนอร์ยี่ห้อไหนดี? อยากจะแนะนำให้สาวๆเลือกใช้โทนเนอร์ยี่ห้อใดก็ได้ที่มีส่วนผสมของอนุพันธ์วิตามินซี ที่มีความเสถียรสูงทำให้เกิดการออกซิเดชัน (oxidation) ยาก แต่ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ง่าย ทั้งยังมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (collagen) ช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใส กระชับรูขุมขน ทำให้สาวๆมีหน้าที่เรียบเนียนดูอ่อนเยาว์มากขึ้น