การทำ ไออนโตฟอรีซิส กับ โฟโนโซเรซิส แตกต่างกันอย่างไร ?

เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหน้าของเราก็เริ่มแสดงสัญญาณแห่งวัยให้เห็นเด่นชัด ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอย ความหย่อนคล้อย หรือความหมองคล้ำต่างๆ อันเนื่องมาจากโครงสร้างของผิวที่เริ่มอ่อนแอไปตามวัย นอกจากนี้กระบวนการต่างๆตามกลไกของร่างกายก็เริ่มเสื่อมสภาพลง มีผลทำให้สารที่ร่างกายผลิตขึ้นมาเพื่อช่วยในการบำรุงผิวก็ลดลงตามไปด้วยเช่นกัน ซึ่งการแก้ปัญหาการเสื่อมสภาพของผิวควรเริ่มต้นจากภายใน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกาย และการพักผ่อนให้เพียงพอกับความต้องการ ส่วนการบำรุงผิวจากภายนอกก็สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งสามารถทำได้โดยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว หรือการทำทรีทเมนต์ต่างๆเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟูและบำรุงผิวให้มากยิ่งขึ้น และกระบวนการที่ช่วยเพิ่มประสิทธิในการลดเลือนริ้วรอยและความหมองคล้ำที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายคือการทำ “ไออนโตฟอรีซิส (Iontophoresis)” และ “โฟโนโซเรซิส (Phonophoresis)”
ปัจจุบันคลินิกและสถานเสริมความงามต่างๆนิยมนำเครื่อง ไออนโตฟอรีซิส และ โฟโนโซเรซิส เพื่อมาใช้ในการรักษาปัญหาผิวหน้า โดยเชื่อว่าการใช้เครื่องมือนี้ควบคู่กับวิตามินต่างๆ อาทิเช่น วิตามินเอ วิตามินซี จะสามารถแก้ปัญหา สิวอุดตัน, แผลเป็น, รอยหลุม, หน้าหมองคล้ำ, รอยดำ, ฝ้า, กระ, ช่วยให้สีผิวกระจ่างใส, แก้ปัญหารูขุมขนกว้าง, ทำให้ผิวหน้ากระชับ และลดเลือนริ้วรอยได้

ไอออนโตฟอรีซิส และ โฟโนโซเรซิส มีหลักการที่เหมือนกันตรงที่จะใช้เครื่องเพื่อนำพาตัวยาหรือสารที่ต้องการเข้าสู่ชั้นผิวหนัง เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการรักษา แต่ตัวกลางที่นำยา หรือผลักยาเข้าสู่ชั้นผิวนั้นจะต่างกัน

ไอออนโตฟอรีซิส (Iontophoresis)

เป็นการใช้กระแสไฟฟ้าปริมาณต่ำเป็นตัวผลักยาหรือวิตามินที่ละลายน้ำหรือเจลผ่านเซลล์ผิวหนัง โดยประจุไฟฟ้าที่ใช้จะมีผลช่วยให้รูขุมขนของผิวหนัง (Skin pore) โดยเฉพาะบนใบหน้าเปิดกว้างมากขึ้น นอกจากนี้วิตามินที่จะใช้รักษาจะสามารถแทรกซึมลงไปยังชั้นผิวหนังได้มีประสิทธิภาพมากกว่าการทาครีมหรือโลชั่นแบบธรรมดาที่จะอยู่แทรกซึมเฉพาะบริเวณผิวหนังชั้นบนเท่านั้น การรักษาด้วยเครื่อง ไอออนโตฟอรีซิส ผู้ให้บริการจะเล็งผลที่การบำรุงเซลล์ต่าง ๆบนผิวหน้าให้คืนกลับมามีชีวิตชีวาขึ้น โดยการลดรอยจุดด่างดำ ฝ้า กระตื้น ลดรอยแผลเป็นบางชนิด หรือรอยแผลเป็นจากอีสุกอีใส (Chickenpox) รวมทั้งลดรอยหลุมจากสิว และรูขุมขนกว้าง

โฟโนโซเรซิส (Phonophoresis)

เป็นการนวดโดยใช้คลื่นเสียง ซึ่งเป็นเทคนิคการผลักยา หรือวิตามินที่ละลายน้ำหรือเจล ผ่านเซลล์ผิวหนังโดยใช้คลื่นเหนือเสียง (Ultrasonic wave) ความถี่สูง 0.8-1 เมกกะเฮิร์ต ซึ่งวิธีนี้สามารถทำให้ยาแทรกซึมผ่านผิวหนังได้ในปริมาณที่มากกว่า รวมถึงความเร็วในการดูดซึมสารของผิวหนังก็เร็วกว่าการทายาหรือทาครีมแบบธรรมดาทั่วไป หลักการของคลื่นอัลตราซาวด์จะทำให้เนื้อเยื่อซึ่งอยู่ในชั้นลึกๆเกิดความร้อน ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนระดับเซลล์ โดยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตและเพิ่มการขับของเสียออกจากเซลล์ผ่านทางระบบน้ำเหลือง (Lymphatic system) สารที่นำมาใช้ในการรักษามีพวก กรดวิตามิน เอ วิตามิน ซี สารให้ความชุ่มชื่นและ สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) เป็นต้น ซึ่งการรักษาด้วยเครื่อง โฟโนโซเรซิส ผู้ให้บริการจะเล็งผลที่การรักษาริ้วรอยเหี่ยวย่นตามบริเวณต่างๆบนใบหน้า นอกจากนี้ยังใช้รักษารอยแดงจากสิว หรือจากแผลเป็นที่เกิดจากสิว ริ้วรอยรอบดวงตา รอยคล้ำใต้ตา รวมถึงการช่วยลดบวมบริเวณใต้ตาถุงใต้ตาเพราะสามารถเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตและขับของเสียออกจากเซลล์ผ่านทางระบบน้ำเหลืองได้

ไอออนโตฟอรีซิส และ โฟโนโซเรซิส เป็นให้ความร้อนกับเนื้อเยื่อซึ่งอยู่ในชั้นลึก เช่น กล้ามเนื้อ กระดูก และเส้นเอ็นมากกว่าเนื้อเยื่อผิวหนังซึ่งอยู่ตื้น ดังนั้นการรักษาด้วยวิธีนี้จะต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

นอกจากคลินิกและสถานเสริมความงามที่มีบริการ ไอออนโตฟอรีซิส และ โฟโนโซเรซิส แล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า เครื่องนวดหน้าแบบพกพา ซึ่งมีทั้งเครื่องไอออนโตฟอรีซิสแบบพกพา และเครื่องโฟโนโซเรซิสแบบพกพา โดยเครื่องดังกล่าวจะมีขนาดเล็ก และสามารถทำเองได้ที่บ้าน โดยมีหลักการที่เหมือนกับเครื่องนวดหน้าขนาดใหญ่ที่ใช้ตามคลินิกหรือสถานสริมความงาม จึงเป็นการเพิ่มทางเลือกและความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคมากขึ้น อีกทั้งยังสะดวก รวดเร็ว ไม่ยุ่งยากสำหรับคุณสุภาพสตรีและสภาพบุรุษที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุง ฟื้นฟูใบหน้า ให้ดูกระจ่างใสเนียนนุ่มปราศจากริ้วรอยและจุดด่างดำ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการรักษาด้วยวิธีนี้ในแง่ของความงามยังคงต้องการงานวิจัยรองรับถึงประสิทธิภาพและระยะเวลาในการรักษา ซึ่งโดยปกติแพทย์สาขาอื่นได้ใช้วิธีไอออนโตฟอรีซิสและวิธีโฟโนโซเรซิสกันมานานและพบว่าได้ผลในกรณีการเพิ่มประสิทธิภาพของการดูดซึมของยาชา และยาแก้ปวดเป็นต้น ดังนั้นผู้บริโภคที่ต้องการรักษาด้วยวิธีนี้ไม่ว่าจะเป็นในคลินิก สถานเสริมความงามหรือแม้กระทั่งการซื้อเครื่องแบบพกพาเพื่อมาใช้เอง ควรคำนึงถึงคุณภาพ มาตรฐานการผลิต มาตรฐานการบริการจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ได้ผลที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดและมีปลอดภัยในการใช้งาน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *