การเลือกใช้ครีมบำรุงผิวในช่วงที่เป็นสิวควรทำอย่างไร?

“สิว” หรือ (Acne Vulgaris) เกิดจากไขมันที่ถูกสร้างขึ้นจากต่อมไขมันที่มีปริมาณมากเกินจนไม่สามารถระบายออกได้ทันจึงเกิดการอุดตันในรูขุมขน โดยส่วนใหญ่สิวจะมักเกิดในบริเวณที่มีต่อมไขมันทำงานมากๆ ตามผิวหน้า (บริเวณทีโซน; หน้าผาก จมูก และคาง) หลัง และบริเวณหน้าอก ซึ่งปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดสิว แบ่งออกเป็น 2 ปัจจัยคือ ปัจจัยภายนอก ได้แก่ แสงแดด อากาศ สภาพแวดล้อม อาหาร สารเคมีจากยา ครีม และเครื่องสำอาง และปัจจัยภายในของร่างกาย ได้แก่ ความเครียด กรรมพันธุ์ ระดับของฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) และระดับของฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen)

การแสดงอาการของสิวแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ ดังนี้

สิวชนิดไม่อักเสบ (Non-inflammatory Acne)

สิวลักษณะนี้จะเป็นเพียงตุ่มแข็งเล็กๆ เกิดจาการอุดตันของไขมันที่มีปริมาณมาก และโปรตีนเคราติน เนื่องจากมีเซลล์ที่ตายแล้วของผิวชั้นนอกสุด (Stratum Corneum) มีการสะสมอยูทำให้ผิวหนังชั้นดังกล่าวหนาตัว จึงทำให้ไขมัน และโปรตีนเคราตินที่ถูกสร้างขึ้นมานั้น เกิดการอุดตันอยู่ในรูขุมขน

สิวชนิดอักเสบ (Inflammatory Acne)

สิวลักษณะนี้จะเป็นตุ่มที่มีลักษณะ บวม แดง เป็นหนอง และอาจมีอาการเจ็บร่วมด้วย ซึ่งมีสาเหตุการเกิดมาจากเจ้าแบคทีเรียที่มีชื่อว่า พี.แอคเน่ (Propionibaterium; P.acne) ยังเป็นอีกสาเหตุสำคัญในการเกิดสิว เนื่องจากแบคทีเรียพี.แอคเน่ มักจะอาศัยอยู่ตามรูขุมขน โดยจะผลิตเอนไซม์ และย่อยไขมันที่อยู่ในรูขุมขนให้กลายเป็นกรดไขมันอิสระ ซึ่งเป็นสารกระตุ้นที่ก่อให้เกิดการอักเสบของสิว
ในช่วงเป็นสิวสามารถใช้ครีมบำรุงผิวได้หรือไม่ เป็นคำถามที่สาวๆ หลายคนอาจจะมีคำถามในใจ เนื่องจากสาวๆ ส่วนใหญ่มักมีความกังวลว่า หากใช้ครีมบำรุงผิวในช่วงที่กำลังเป็นสิวแล้วอาจยิ่งก่อให้เกิดอาการอักเสบของสิว หรืออาจก่อให้เกิดจำนวนสิวที่เพิ่มมากขึ้น อาการแพ้ และระคายเคือง หรือไม่ วันนี้จึงมีเคล็ดลับการเลือกครีมบำรุงผิวหน้าในช่วงสิวบุกมาฝากค่ะ ในช่วงที่มีสิวบนผิวหน้า เราควรระมัดระวังการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ครีมบำรุง ควรงดการใช้ครีมหลายๆ ตัวพร้อมกัน เพื่อป้องกันการอักเสบของสิว และเลือกใช้ครีมบำรุงที่มีความอ่อนโยนต่อผิว ปราศจากน้ำหอม ไม่อุดตัน หรือเลือกใช้ครีมบำรุงผิวชนิดที่ระบุว่า ไม่ก่อให้เกิดสิว และการระคายเคือง โดยการเลือกครีมบำรุงให้เหมาะสมกับลักษณะของสิวส่งผลให้ช่วยลดภาวการณ์เกิดสิวอักเสบได้

การเลือกครีมบำรุงผิวต่างๆในช่วงที่เป็นสิว อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดสิวเพิ่มมากขึ้นได้ ดังนั้นเราจึงควรเลือกเรียนรู้การใช้ครีมให้ถูกต้องและเหมาะสมกับผิวหน้าของเรา

เคล็ดลับการเลือกใช้ครีมบำรุงให้เหมาะกับผิวหน้าเวลาที่เป็นสิว

ในช่วงที่มีสิวบนผิวหน้า เราควรระมัดระวังการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ครีมบำรุง ควรงดการใช้ครีมหลายๆ ตัวพร้อมกัน เพื่อป้องกันการอักเสบของสิว และเลือกใช้ครีมบำรุงที่มีความอ่อนโยนต่อผิว ปราศจากน้ำหอม ไม่อุดตัน หรือเลือกใช้ครีมบำรุงผิวชนิดที่ระบุว่า ไม่ก่อให้เกิดสิว และการระคายเคือง โดยการเลือกครีมบำรุงผิวให้เหมาะสมกับลักษณะของสิวส่งผลให้ช่วยลดภาวการณ์เกิดสิวอักเสบได้ ซึ่งมีครีมบำรุงประเภทต่างๆ ดังนี้

ครีมบํารุงผิวสําหรับคนที่เป็นสิวอุดตัน

สิวอุดตันเกิดจากน้ำมันบนใบหน้าที่ถูกสร้างออกมามากเกินไป และรวมตัวกับเซลล์ผิวที่ตายแล้ว กลายเป็นน้ำมันที่มีความข้นหนืดมากยิ่งขึ้น จึงเกิดการตกค้าง/อุดตัน อยู่ในรูขุมขน สำหรับผู้ที่เป็นสิวอุดตันควรเลือกใช้ครีมบำรุงหน้าที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) หรือ Beta Hydroxy Acid (BHA) ซึ่งกลุ่มสารที่มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วไม่ให้หนา ทำให้ไม่มีไขมันอุดตันในรูขุมขน และป้องกันการเกิดสิว อีกทั้งควรใช้ครีมบำรุงที่ไม่มีส่วนผสมที่ส่งผลให้เกิดการอุดตันรูขุมขน (Non-comedogenic) ปราศจากส่วนประกอบของน้ำมัน (Oil Free) และปราศจากฮอร์โมนในเนื้อครีม

ครีมบํารุงผิวสําหรับคนเป็นสิวผิวมัน

เป็นผิวที่เกิดสิวง่าย และมีรูขุมขนกว้าง จึงควรใช้ครีมบำรุงที่เป็น เจล (Gel) เอสเซนต์ (Essence) และเซรั่ม (Serum) เนื่องจากมีคุณสมบัติซึมเข้าผิวได้รวดเร็ว ช่วยเติมน้ำใต้ผิวหนัง ไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่เพิ่มความมันบนในหน้า ครีมบำรุงผิวที่เหมาะกับคนผิวมันควรมีส่วนผสมของ Alpha Hydroxy Acid (AHA) หรือ Beta Hydroxy Acid (BHA) ซึ่งส่วนผสมเหล่านี้ช่วยในการผลัดเซลล์ที่ตายแล้วของผิวชั้นบน ช่วยให้ผิวกระจ่างใส รวมทั้งมีฤทธิ์ในการค่าเชื้อแบคทีเรีย อันเป็นสาเหตุของสิวจึงส่งผลให้รูขุมขนสะอาดจึงส่งผลให้รูขุมขนมีขนาดที่เล็กลง นอกจากนี้สาวผิวมันทั้งหลายควรหลีกเลี่ยงการใช้ครีมบำรุงที่เป็นเนื้อครีมข้น หรือมีส่วนผสมของน้ำมันเยอะ เนื่องจากอาจทำให้ผิวหน้ามันมันยิ่งขึ้น และเกิดการอุดตันจนกลายเป็นสิวอักเสบได้ และไม่ควรใช้กระดาษซับมันลดความมันบนใบหน้าระหว่างวัน หรือล้างหน้าบ่อยๆ เพราะนั่นเป็นกระตุ้นให้ต่อมไขมันบนใบหน้าผลิตไขมันมากเกินความจำเป็น

ครีมบํารุงผิวหน้าสําหรับผิวแพ้ง่าย

ซึ่งเป็นผิวที่หาครีมบำรุงที่มีความเหมาะสมยาก ดังนั้น ควรใช้ครีมบำรุงผิวที่ไม่มีส่วนผสมของ น้ำหอม สี และแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นสารเหล่านี้ก่อให้เกิดการระคายเคืองกับผิว และทำให้เกราะคุ้มกันผิวจากมลภาวะภายนอก (Skin Barrier) ของผิวอ่อนแอลง นอกจากนี้ควรใช้ครีมบำรุงที่มีเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าที่มีส่วนประกอบของสาร Ceramide, Grape seed oil Jojoba oi ฯลฯ เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้ง หรือเลือกใช้ครีมบำรุงที่ผ่านการตรวจสอบโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง (Dermatological test) ว่าไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และครีมที่มีส่วนประกอบของน้ำเป็นหลัก (Water Base) เพื่อให้ผิวหน้าชุ่มชื้น ไม่แห้ง และลดอาการระคายเคือง

อย่างไรก็ตามก่อนที่เราจะพิจารณาในการเลือกซื้อครีมบำรุงผิวนั้น เราควรที่จะตรวจสอบส่วนผสมต่างๆของแต่ละผลิตภัณฑ์ให้ดีเสียก่อน เพื่อป้องกันการแพ้ที่อาจจะเกิดขึ้นได้

นอกจาก การเลือกครีมบำรุงที่เหมาะสมกับสิวที่เกิดขึ้นบนผิวหน้า จะช่วยในการฟื้นฟูสภาพผิวอย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้ผิวแข็งแรงแล้ว สาวๆ ควรดูแลรักษาผิวหน้าให้มากเป็นพิเศษในช่วงที่หน้าเป็นสิว เพื่อป้องกันเกิดการอักเสบ และจำนวนสิวที่เพิ่มขึ้น โดยมีวิธีการดูแลผิวหน้า ดังนี้ ควรรักษาความสะอาดของใบหน้า ไม่ควรถูหน้าแรงๆ เพราะอาจก่อให้เกิดผิวหน้าระคายเคือง ลดความเครียด ใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมทั้งชนิดและปริมาณของผลิตภัณฑ์ ดื่มน้ำสะอาดที่อุณหภูมิห้องในปริมาณที่พอเหมาะ ทานอาหารที่มีประโยชน์ งดอาหารที่มีความมัน และพักผ่อนให้เพียงพอ ดังนั้น หากสาวๆ อยากมีผิวที่สวย

นวัตกรรมแห่งความงาม IPL ที่สามารถดูแลผิวได้อย่างครอบคลุม บำรุงลึกได้ถึงผิวชั้นใน ใช้ได้แม้ผิวแพ้ง่าย ช่วยปรับผิวให้สวยขึ้น เรียบเนียนขึ้น ภายใน 2 สัปดาห์

ในปัจจุบันนี้มีเทคโนโลยีต่างๆที่ช่วยทำให้การดูแลผิวเป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งขึ้น อย่าง เครื่อง IPL ที่มีความถี่ของคลื่นแสงที่สามารถที่จะลงลึกไปบำรุงได้ถึงชั้นผิว จึงทำให้การดูแลผิวให้สุขภาพดีนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งขึ้น รวมถึงการทำ IPL ยังสามารถที่จะทำได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ผิวของผู้ใช้ทุกคนนั้นมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น ไม่ทำร้ายผิว รวมถึงยังสามารถที่จะช่วยฟื้นฟูสภาพผิวไปได้พร้อมๆกัน และที่สำคัญด้วยพลังงาน 47J ของเครื่อง IPL PiOne ที่มี Xtensive Flash เอกสิทธิ์ที่เฉพาะตัวและเป็นผู้จัดจำหน่ายรายเดียวในประทเศไทยที่มีผลวิจัยทางการแพทย์รองรับ ทำให้ผู้ใช้งานทุกคนสามารถที่จะไว้วางใจในการใช้งานผลิตภัณฑ์ได้อย่างมั่นใจ รวมถึงด้วยค่าพลังงาน 47J ที่สูงกว่าเครื่อง IPL ทั่วไป ทำให้สามารถที่จะจัดการปัญหาผิวต่างๆได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สิว, รอยสิว, ริ้วรอย, กระตุ้นคอลลาเจน, ฝ้า-กระ และ จุดด่างดำ ไปได้ในการยิงแค่ครั้งเดียว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *